คำสั่งคำร้องที่ 3427/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาโจทก์เป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาไม่เกิน 200,000 บาทจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคแรก จึงไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงิน 3,630,260.56 บาทและดอกเบี้ยทบต้นอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปีในเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 29 เมษายน 2528 จนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2528 หลังจากนั้นให้คิดดอกเบี้ยอัตราเดียวกันไม่ทบต้นจนถึงวันฟ้อง และต่อจากนั้นไป ให้คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีในเงินต้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2528 จนกว่าจำเลยที่ 1 จะชำระแก่โจทก์เสร็จสิ้นทั้งนี้ให้นำยอดเงินจำนวน 120,000 บาท และ 115,380.30 บาทซึ่งจำเลยที่ 1 นำเข้าหักบัญชีในวันที่ 23 กรกฎาคม 2538 และวันที่ 26 กันยายน 2538 หักออกจากจำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งคำนวณถึงในวันนั้น ๆ ด้วย ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมรับผิดในเงินจำนวน 500,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี ทบต้นตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2526 จนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2528 ซึ่งบอกเลิกสัญญา หลังจากนั้นให้คิดดอกเบี้ยอัตราเดียวกัน ไม่ทบต้นจนถึงวันฟ้อง และต่อจากนั้นให้คิดดอกเบี้ยอัตรา ร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงินในวันที่ 17 พฤษภาคม 2528 จนกว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 จะชำระแก่โจทก์เสร็จสิ้น หากไม่ชำระ ให้ยึดทรัพย์จำนองหรือทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสามชำระแก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ชำระเงิน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยทบต้น ในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2528 จนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2528 กับคิดดอกเบี้ยธรรมดาอัตราเดียวกัน ในต้นเงินของวันที่ 17 พฤษภาคม 2528 นับตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2528 จนถึงวันฟ้อง (วันที่ 30 กรกฎาคม 2530) และคิดดอกเบี้ย ธรรมดาในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงินของวันที่ 17 พฤษภาคม2528 นับตั้งแต่ถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3จะชำระหนี้แก่โจทก์เสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 136)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 137)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ในฐานะผู้ค้ำประกันตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีจะต้องรับผิดในดอกเบี้ยทบต้นนับแต่วันทำสัญญาค้ำประกันหรือไม่ เป็นฎีกาใน ปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป

Share