คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6904/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งสำเนาคำร้องแก่ผู้มีชื่อในโฉนดที่ดิน ผู้มีส่วนได้เสียหรือทายาท ย่อมทำให้ผู้คัดค้านซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรมของ ช. ไม่ทราบถึงการร้องขอของผู้ร้อง และเสียสิทธิในการที่จะคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้อง หากได้ความดังกล่าวย่อมแสดงว่า การส่งสำเนาคำร้องของผู้ร้องให้แก่ทายาทของ ช. กระทำโดยมิชอบ ทำให้ฝ่ายผู้คัดค้านไม่มีโอกาสที่จะคัดค้านคำร้องของผู้ร้องก่อน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 21 (2) จึงเป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้เป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการส่งคำคู่ความ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสีย หรือสั่งแก้ไข หรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่เห็นสมควรตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 17881 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ตั้งแต่คำสั่งให้ประกาศหน้าศาลแทนการส่งหมายโดยวิธีธรรมดาเป็นต้นไป และให้ส่งหมายเรียกสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้านทราบ หรืออนุญาตให้ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านภายใน 30 วัน มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินให้ยกเลิกรายการจดทะเบียนที่ดินที่เป็นของผู้ร้อง ให้ผู้ร้องส่งคืนต้นฉบับใบแทนโฉนดที่ดินแก่เจ้าพนักงานที่ดิน และห้ามผู้ร้องกระทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้คัดค้านมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสีย การที่ผู้ร้องขอให้ศาลส่งสำเนาคำร้องในคดีนี้โดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์ จึงชอบด้วยกฎหมายแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 รวมทั้งศาลได้ส่งสำเนาคำร้องให้เจ้าพนักงานที่ดิน อันถือได้ว่าเป็นการประกาศให้บุคคลผู้มีส่วนได้เสีย และบุคคลภายนอกทราบแล้ว การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลจึงชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้องของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งสำเนาคำร้องขอแก่ผู้มีชื่อในโฉนด ผู้มีส่วนได้เสียหรือทายาท ตามคำแถลงฉบับลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 และเพิกถอนกระบวนพิจารณาหลังจากนั้นเป็นต้นไป ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นส่งคำคู่ความใหม่แล้วไต่สวนและมีคำสั่งต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่ง เมื่อมีคำสั่งใหม่
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งสำเนาคำร้องขอแก่ผู้มีชื่อในโฉนดที่ดิน ผู้มีส่วนได้เสียหรือทายาท ตามคำแถลงลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 และให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาหลังจากนั้นเป็นต้นไป ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นส่งคำคู่ความใหม่ แล้วไต่สวนและมีคำสั่งต่อไปนั้น ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่ง หรือไม่ เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นรับคำร้องขอของผู้ร้องแล้วตรวจพบว่า นายชื่น ซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทถึงแก่ความตาย และมีคดีพิพาทเกี่ยวกับการขอจัดการมรดกนายชื่น เจ้ามรดกอยู่ในศาลชั้นต้นเดียวกัน ไม่ว่าคดีจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ก็ตาม ย่อมถือได้ว่า ผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้รับพินัยกรรมเป็นผู้มีส่วนได้เสีย การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งสำเนาคำร้องแก่ผู้มีชื่อในโฉนดที่ดิน ผู้มีส่วนได้เสียหรือทายาทตามคำแถลงลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 ย่อมทำให้ผู้คัดค้านซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรมของนายชื่นไม่ทราบถึงการร้องขอของผู้ร้อง และเสียสิทธิในการที่จะคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้อง หากได้ความดังกล่าวย่อมแสดงว่า การส่งสำเนาคำร้องของผู้ร้องให้แก่ทายาทของนายชื่นกระทำโดยมิชอบ ทำให้ฝ่ายผู้คัดค้านไม่มีโอกาสที่จะคัดค้านคำร้องของผู้ร้องก่อน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21 (2) จึงเป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้เป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการส่งคำคู่ความ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสีย หรือสั่งแก้ไข หรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share