แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่แก้ไขใหม่ จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนว่า ที่ดินพิพาทแผนที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง แล้วให้จำเลย รื้อถอนรั้วที่จำเลยปักไว้ออกไปจากที่ดินพิพาทและทำให้ ที่ดินพิพาทอยู่ในสภาพเรียบร้อยด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลย ให้จำเลย ใช้ค่าเสียหายจำนวน 12,600 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย อัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2538 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแต่ทั้งนี้เมื่อคิดถึงวันฟ้องดอกเบี้ย ต้องไม่เกิน 232 บาทตามที่โจทก์ขอ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 144)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล (อันดับ 146)
คำสั่ง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของจำเลยโดยมิได้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และมิได้นำเงินมาชำระ ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วย มาตรา 247 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย