แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแสดงว่าตนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ดังนั้นเมื่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังไม่ถึงที่สุด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ ในที่ดินมีโฉนดโดยการครอบครองปรปักษ์ และให้เพิกถอนชื่อนางกรรณิการ์ วิเศษชาญเวช ออกจากโฉนดและใส่ ผู้ร้องเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว นางกรรณิการณ์ วิเศษชาญเวช ยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 25983 แขวงบางแคหลักสองเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกรุงเทพมหานคร ผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 ให้เพิกถอนการจดทะเบียนรายการลงวันที่ 28 เมษายน2531 ระหว่างนางสาวจงกลนี ทันตศิริกร กับนางกรรรณิการ์ วิเศษชาญเวช ผู้คัดค้าน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2497)ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งได้มาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382ผู้ได้มาต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแสดงว่าตนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ดังนั้นเมื่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังไม่ถึงที่สุดจึงไม่จำเป็นที่จะต้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาให้ยกคำร้อง”