คำสั่งคำร้องที่ 302/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงของโจทก์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ส่วนปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ยกขึ้นอ้างมาในฎีกานั้นก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ไม่รับฎีกาของโจทก์โจทก์เห็นว่า โจทก์ได้ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าด้วยการชั่งน้ำหนักพยานและในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อโจทก์มีพยานบุคคลกับพยานเอกสารหมาย จ.1 มาแสดง ก็เป็นการรับฟังได้ว่าคดีมีมูลแล้วที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในประเด็นที่ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายก็เป็นการไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน โปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลชั้นต้นและให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 36)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157,179,90
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 31)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 33)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่า ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบฟังได้ว่า คดีโจทก์มีมูล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายนั้นเป็นเรื่องโจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเป็นเรื่องโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ในเรื่องที่โจทก์ไปแจ้งความต่อจำเลย จึงเป็นคนละเรื่องกัน แม้เป็นฎีกาในข้อกฎหมายก็เป็นฎีกาที่ไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share