คำสั่งคำร้องที่ 30/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ร่วม เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย จึงเป็น ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับ
โจทก์ร่วมเห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาว่าโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาบัญญัติไว้ว่า ผู้เสียหาย หมายถึงผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง ดังนั้น โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายที่ชอบด้วยกฎหมายและประเด็นที่ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ร่วมได้รับ อันตรายสาหัสหรือไม่ ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับ ฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 83)
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นางจันทร์ หล่อศิวาวัชรสุขผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295,83 จำคุกคนละ 4 เดือนปรับคนละ 4,000 บาท ฝ่ายจำเลยทั้งสองพยายามติดต่อชดใช้ ค่าเสียหายให้โจทก์ร่วมแล้ว แต่โจทก์ร่วมเรียกค่าเสียหายสูงไป ฝ่ายจำเลยทั้งสองจึงไม่ชำระค่าเสียหายให้ ถือได้ว่าจำเลยทั้งสอง รู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดแล้ว ทั้ง จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และ เมื่อคำนึงถึง พฤติการณ์แห่งคดีสมควรให้โอกาสแก่จำเลยทั้งสองได้กลับตัว โทษจำคุกจึงให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาแล้ว เห็นว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)ไม่อาจขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการได้และไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ จึงให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม และพิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 81)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 81)

คำสั่ง
ปัญหาว่าโจทก์ร่วมฎีกาโต้เถียงพฤติการณ์ที่ จำเลยทั้งสองเข้า ทำร้ายโจทก์ร่วมก่อนหรือโจทก์ร่วมกับจำเลยทั้งสองสมัครใจเข้าวิวาท ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน กับปัญหาที่โจทก์ร่วมโต้เถียงถึงระยะ เวลารักษาตัวของโจทก์ร่วมว่านานเพียงใด อันจะถือว่าเป็นการ ทำร้ายร่างกายถึงสาหัสหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังเป็นยุติและพิพากษาตามกันมาเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ที่ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมชอบด้วยกฎหมายแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share