คำสั่งคำร้องที่ 296/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์นำคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสองมายื่นที่ศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2535เวลาประมาณ 16.40 นาฬิกา ซึ่งในวันดังกล่าวมีฝนตกหนักในกรุงเทพมหานคร การจราจรติดขัดทนายโจทก์ติดว่าความอยู่ที่ศาลแพ่งจนถึงเวลาประมาณ 11 นาฬิกาเศษ และทนายโจทก์ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุขัดข้องให้เจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นทราบแล้วถือได้ว่าเป็นกรณีมีพฤติการณ์พิเศษ ทนายโจทก์มายื่นคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับช้าไป 10 นาที เพราะมีเหตุสุดวิสัย ศาลฎีกาให้รับคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของโจทก์

ย่อยาว

คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน12,079,312.13 บาท และเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงิน 8,126,607.35 บาท นับแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์2531 ซึ่งเป็นวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 640,000 บาท และเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2528ถึงวันฟ้องและในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยที่ 2 จะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ ถ้าจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้นำที่ดินที่จำนองไว้ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ

จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาอย่างคนอนาถา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ

ทนายโจทก์ได้รับสำเนาฎีกาและสำเนาคำร้องขอทุเลาการบังคับโดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2535

โจทก์ยื่นคำแก้ฎีกาลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2535 พร้อมคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับเนื่องจากยื่นเกินเวลาราชการ แต่ให้ถือว่าคำแก้ฎีกาเป็นคำแถลงการณ์

โจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ได้นำคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสองมายื่นที่ศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม2535 เลยเวลาราชการประมาณ 10 นาที ซึ่งในวันดังกล่าวฝนตกหนักการจราจรติดขัดโดยทนายโจทก์ติดว่าความอยู่ที่ศาลแพ่งคดีเสร็จการพิจารณาประมาณ 11 นาฬิกาเศษเวลาประมาณ 16 นาฬิกาเศษ ทนายโจทก์ได้โทรศัพท์แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นว่าประสงค์จะนำคำแก้ฎีกาพร้อมคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับมายื่นศาลชั้นต้นว่าประสงค์จะนำคำแก้ฎีกาพร้อมคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับมายื่นเจ้าหน้าที่ศาลรับทราบและตกลงจะรอทนายโจทก์ เมื่อทนายโจทก์มาถึงศาลชั้นต้นเวลาประมาณ 16.40 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งว่าเลยเวลาราชการแล้วไม่อาจนำเสนอเพื่อให้ศาลชั้นต้นสั่งรับคำแก้ฎีกาได้ การที่โจทก์นำคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านคำร้องขอทุเลาการบังคับมายื่นเลยเวลาดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัยไม่อาจก้าวล่วงได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอให้รับคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของโจทก์ด้วย

ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วให้ส่งศาลฎีกาสั่ง

ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว ตามทางไต่สวนได้ความว่าในวันที่ 29 กรกฎาคม 2535 เวลา 12.00-13.00 นาฬิกา มีฝนตกหนักในกรุงเทพมหานคร เส้นทางจราจรติดขัด ตอนเช้าทนายโจทก์ติดว่าความที่ศาลแพ่ง ตอนบ่ายเวลา 16 นาฬิกาเศษ ทนายโจทก์ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุขัดข้องให้เจ้าหน้าที่ศาลชั้นต้นทราบ และเดินทางมาถึงศาลชั้นต้นเวลาประมาณ 16.40 นาฬิกา ถือได้ว่าเป็นกรณีมีพฤติการณ์พิเศษและทนายโจทก์มายื่นคำแก้ฎีกาและคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับช้าไป10 นาที เพราะมีเหตุสุดวิสัย จึงให้รับคำแก้ฎีกา และคำคัดค้านการขอทุเลาการบังคับของโจทก์”

Share