แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยต่างเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดที่มีเขตติดต่อกันจำเลยคัดค้านการรังวัดสอบเขตโดยมิชอบ จำเลยให้การว่าสามีจำเลยซื้อที่ดินมาจากบุคคลภายนอก ด้านที่ติดกับที่ดินโจทก์มีรั้วพู่ระหงตลอดแนว สามีจำเลยและจำเลยได้ครอบครองที่ดินตามแนวรั้วต้นพู่ระหงอย่างสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกิน 10 ปี แล้ว จำเลยเห็นว่าโจทก์ชี้เขตที่ดินรุกล้ำที่ดินที่จำเลยครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์แล้วจึงไม่ยอมรับรองดังนี้ คำให้การของจำเลยมิได้ยืนยันว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของจำเลยแต่อ้างว่าได้ครอบครองที่ดินถึงแนวรั้วต้นพู่ระหงจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว แม้ศาลชั้นต้นจะกำหนดประเด็นไว้แต่เพียงว่าจำเลยขัดขวางไม่ยอมรับรองเขตที่ดินของโจทก์โดยมิชอบหรือไม่ แต่การวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวก็ต้องวินิจฉัยว่า ข้อต่อสู้ของจำเลยรับฟังได้หรือไม่ หากจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองจริง การที่จำเลยไม่รับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ซึ่งรังวัดรวมเอาที่พิพาทไว้ด้วยจะถือว่าจำเลยใช้สิทธิโดยมิชอบหาได้ไม่ จึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยเรื่องการครอบครองที่ดินตามข้อต่อสู้ของจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และพี่น้องอีก ๔ คนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดที่ ๖๒๔ ซึ่งมีเขตติดกับที่ดินโฉนดที่ ๓๘๘๔ ของจำเลย เมื่อโจทก์นำเจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดเพื่อแบ่งแยกโฉนดระหว่างเจ้าของรวม จำเลยคัดค้านว่าเขตที่ดินของโจทก์เหลื่อมล้ำที่ดินจำเลยและไม่ยอมรับรองเขตที่ดินของโจทก์ เป็นการใช้สิทธิโดยมิชอบ ขอให้บังคับจำเลยลงชื่อรับรองแนวเขต หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า สามีจำเลยซื้อที่ดินโฉนดที่ ๓๘๘๔ จากท้าวสัตยานุรักษ์เขตที่ดินด้านทิศตะวันตกมีรั้วพู่ระหงตลอดแนว สามีจำเลยได้ครอบครองที่ดินแนวเขตรั้วดังกล่าวอย่างเปิดเผยจน พ.ศ. ๒๕๐๑ สามีจำเลยถึงแก่กรรม จำเลยรับมรดกและได้ครอบครองตามแนวเขตรั้วดังกล่าวโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อมาจนถึงปัจจุบันจำเลยเห็นว่าโจทก์ชี้เขตที่ดินรุกล้ำที่ดินที่จำเลยครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์จึงไม่ยอมรับรอง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า รั้วต้นพู่ระหงเป็นเขตที่ดินโจทก์จำเลยมาหลายสิบปีแล้ว จะถือตามแผนที่ไม่ได้คำให้การของจำเลยไม่มีประเด็นเรื่องจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ จึงไม่วินิจฉัยปัญหานี้ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าคดีมีประเด็นเรื่องจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ เห็นว่า ตามคำให้การของจำเลย มิได้ยืนยันว่าที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดของจำเลย แต่อ้างว่าได้ครอบครองที่ดินถึงแนวรั้วต้นพู่ระหงจนได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง แม้ศาลชั้นต้นจะกำหนดประเด็นไว้แต่เพียงว่า จำเลยขัดขวางไม่ยอมรับรองเขตที่ดินของโจทก์โดยมิชอบดังคำฟ้องหรือไม่ แต่การวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว ก็ต้องวินิจฉัยว่า ข้อต่อสู้ดังกล่าวของจำเลยรับฟังได้หรือไม่ด้วย หากจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองจริง การที่จำเลยไม่รับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ซึ่งรังวัดรวมเอาที่พิพาทไว้ด้วย จะถือว่าจำเลยใช้สิทธิโดยมิชอบหรือไม่ จึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยเรื่องการครอบครองที่ดินตามข้อต่อสู้ของจำเลย แล้วฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลากว่าสิบปี ดังนั้น การที่จำเลยไม่ยอมรับรองเขตที่ดินตามฟ้อง ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยใช้สิทธิโดยมิชอบ
พิพากษายืนในผลที่ยกฟ้องโจทก์