แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 88)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการให้ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงคือ ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ทะเบียนเล่ม 25 หน้า150 สารบบเล่มหมู่ที่ 7 หน้า 86 และที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 685 ซึ่งตั้งอยู่ตำบลทุ่งมนอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ทั้งสองแปลง โดยให้จำเลยทั้งสองไปโอนที่ดินดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์ มิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา และยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 82,84)
คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ มิได้บังคับโจทก์ให้ปฏิบัติอย่างไร จึงไม่มีอะไรจะทุเลาการบังคับ ส่วนที่โจทก์ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้โจทก์เข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทตามที่มีการตกลงกันในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 6 สิงหาคม 2530 จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษานั้น เห็นว่า ตามข้อตกลงในรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวเป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่า จำเลยยอมให้โจทก์เข้าทำนาในที่ดินพิพาทจนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแล้ว ข้อตกลงดังกล่าวก็สิ้นสุดลง และเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องฉบับนี้ จำเลยก็ได้ยื่นคำแถลงคัดค้าน ไม่ยินยอมให้โจทก์ทำนาในที่ดินพิพาทอีกต่อไปเช่นนี้ ศาลฎีกาจึงไม่อาจจะสั่งให้โจทก์คงมีสิทธิดังกล่าวต่อไปได้อีก ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
