คำสั่งคำร้องที่ 294/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เกี่ยวกับค่าเสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกาโจทก์โจทก์ทั้งสองเห็นว่า คดีนี้หนี้ประธานระหว่างโจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ส่วนค่าเสียหายเป็นเพียงหนี้อุปกรณ์เมื่อหนี้ประธานไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง หนี้ค่าเสียหายซึ่งเป็นหนี้อุปกรณ์ก็ไม่มีกฎหมายใดห้ามฎีกา อีกทั้งคำขอในเรื่องค่าเสียหายในกรณีนี้เป็นคำขอเกี่ยวกับตัวทรัพย์ และเป็นค่าเสียหายในอนาคตจึงเป็นคำขอที่ไม่มีทุนทรัพย์ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเช่นกัน ทั้งนี้ไม่ว่าศาลอุทธรณ์จะแก้ไขมากหรือเพียงเล็กน้อยก็ตาม โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 109 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทของโจทก์ (ปรากฏตามแผนที่วิวาทฉบับที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานีส่งมาศาล ซึ่งรังวัดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2527ในสำนวน) อีกต่อไป ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองปีละ6,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่พิพาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 4,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา (อันดับ 94)
โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 101)
โจทก์ทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 103)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์แม้ศาลชั้นต้นจะกำหนดค่าเสียหายให้โจทก์ปีละ 6,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย ก็ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248จึงให้รับฎีกาของโจทก์และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share