แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยข้อ 2เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ส่วนฎีกาข้อ 3จำเลยมิได้อุทธรณ์ปัญหานี้ในชั้นอุทธรณ์มาก่อน จึงไม่มีสิทธิฎีกาได้ไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยข้อ 3 ที่ว่า ฟ้องโจทก์มิได้อ้างกฎกระทรวงซึ่งออกตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาในคำขอท้ายคำฟ้องฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์นั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้กล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์ศาลก็ย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้อยู่แล้ว และว่าหากศาลสั่งรับฎีกาจำเลยในข้อกฎหมายดังกล่าว ก็ย่อมมีอำนาจพิจารณาฎีกาข้อ 2 ของจำเลยที่ขอให้รอการลงโทษได้ด้วย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7,55,78 ฯลฯ จำคุก 3 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน ฯลฯ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 34)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 40)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาข้อ 3 ของจำเลยเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนให้รับเป็นฎีกา ไว้พิจารณาต่อไป