แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า โจทก์ฎีกาโต้เถียง ดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ไม่รับฎีกาของโจทก์ โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 จำคุก 6 เดือน ปรับ 6,000 บาท พิเคราะห์พฤติการณ์ แห่งคดีแล้วโทษจำคุกสมควรให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษให้จำเลย และไม่ปรับ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา (อันดับ 158) โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษในความผิดที่ศาลล่างทั้งสองยกฟ้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ดังกล่าว (อันดับ 154) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 160)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ เห็นได้ว่าเป็นการห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง