แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลา ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า คดีนี้จำเลยที่ 2ยื่นฎีกา และคำร้องภายในกำหนดจึงไม่จำต้องขอขยายเวลายื่นฎีกาอีก ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 เห็นว่า จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอขยาย ระยะเวลายื่นฎีกาก็เพื่อใช้สิทธิที่จะขอให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ท่านอื่น อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง การที่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องจึงเป็นการตัดสิทธิของจำเลย ในการฎีกา จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอศาลอุทธรณ์พิพากษา กลับให้รับคำร้องขอขยายเวลาฎีกา และมีคำสั่งอนุญาต ให้ขยายระยะเวลาด้วย โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 197 แผ่นที่ 2)
ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยที่ 1ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 พร้อมบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากโฉนดเลขที่ 1602 ตำบลศิลาลอย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เฉพาะส่วนที่จำเลยที่ 2ครอบครอง กับให้จำเลยที่ 2 ชำระค่าเสียหายเดือนละ 500 บาท แก่โจทก์ นับแต่วันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบที่ดินคืนโจทก์ยกฟ้องแย้ง จำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 185 แผ่นที่ 3)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง (อันดับ 185 แผ่นที่ 2)
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรวม สำนวนส่งศาลฎีกา (อันดับ 192)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้อง ขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาของจำเลยที่ 2 เพราะ จำเลยที่ 2ได้ยื่นฎีกาและคำร้องขอให้ผู้พิพากษา ที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาในเวลา ที่กฎหมายกำหนดแล้ว มิใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาที่จะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ภายในกำหนด 15 วันนับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247,252 จำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิ อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ได้ตามมาตรา 223 แต่เมื่อคดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแล้วก็เห็นสมควร วินิจฉัยไปเสียเลย ศาลฎีกาเห็นว่า ข้ออ้างของจำเลยที่ 2 ที่ปรากฏในอุทธรณ์คำสั่งซึ่งอ้างว่าขอขยายระยะเวลา ฎีกาเพื่อใช้สิทธิที่จะขอให้ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณา คดีในศาลชั้นต้นคือนายสุรศักดิ์คีรีวิเชียร หรือศาลอุทธรณ์รับรอง หรือขอให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาได้นั้น ไม่มีปรากฏเหตุผลดังกล่าวในคำร้องขอขยายระยะเวลาของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด คำร้องเพียงแต่อ้างเหตุว่าขอขยายระยะเวลาออกไป อีก 30 วัน เพื่อให้นายศตวรรษ ทาแก้ว ผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีนี้ในศาลชั้นต้นรับรองเท่านั้น เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าฎีกาและคำร้องขอให้ผู้พิพากษาดังกล่าว รับรองได้ยื่นในกำหนดระยะเวลาฎีกา จึงมีคำสั่งยกคำร้อง ขอขยายระยะเวลาเสีย คำสั่ง ศาลชั้นต้นย่อมชอบด้วย กฎหมายแล้ว ให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2