คำสั่งคำร้องที่ 2774/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 2มีคำพิพากษายืนยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีโจทก์จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ไม่รับฎีกาโจทก์เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากพยานเอกสารซึ่งรับฟังเป็นยุติได้ว่า การเบิกความของจำเลยในคดีแพ่งตามเอกสารหมาย จ.6 นั้นเป็นการเบิกความเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดีแพ่ง แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการขาดเจตนาเบิกความเท็จ จึงเป็นเรื่องของการปรับบทกฎหมายเข้ากับข้อเท็จจริงตามที่ได้ความจากพยานหลักฐานในสำนวน จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 93)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 89)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 90)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์จึงฎีกาไม่ได้แม้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17)พ.ศ. 2532 มาตรา 13 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share