แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า อุทธรณ์โจทก์เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม ไม่รับ โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ที่ว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัย ข้อเท็จจริงผิดไปจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน เป็นปัญหา ข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 51) โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่ง อัตราค่าจ้างและสวัสดิการเดิม หากจำเลยไม่สามารถรับโจทก์ กลับเข้าทำงานได้ขอให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายกรณีเลิกจ้าง ไม่เป็นธรรม 900,000 บาท ฯลฯ ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ดังกล่าว (อันดับ 47) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 48)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่า คณะกรรมการสอบสวน ทางวินัยของจำเลยมีความเห็นว่า การกระทำของโจทก์ เป็น ความผิดวินัยไม่ถึงขั้นร้ายแรงที่จำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยข้อบังคับนั้น เห็นว่า โจทก์มิได้บรรยาย ข้อดังกล่าวไว้ในคำฟ้อง และศาลแรงงานกลางก็มิได้กำหนดเป็น ประเด็นข้อพิพาทไว้อุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นข้อที่มิได้ ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลแรงงานกลางต้องห้ามมิให้ อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและ วิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 ศาลแรงงานกลาง มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง