คำสั่งคำร้องที่ 2668/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าฎีกาโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อกฎหมายเมื่อราคาทรัพย์สินที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกาไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ที่ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แต่ผู้เดียว ให้จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท และห้ามเกี่ยวข้องต่อไป ให้จำเลยคืนเงิน 240 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 9 มกราคม 2532 จนกว่าจะชำระครบถ้วน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 59)
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 60)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์กล่าวอ้างในฎีกาว่าโจทก์ได้ยื่นฟ้อง จำเลยเป็นคดีอาญาต่อศาลแขวงอุบลราชธานี ก่อนที่จะยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ และอ้างมาด้วยว่าศาลแขวงอุบลราชธานีพิพากษายกฟ้องคดีอาญาดังกล่าวโดยวินิจฉัยว่า โจทก์และจำเลย ต่างยืนยันว่าที่พิพาทเป็นของตน จึงให้นำมาฟ้องร้องเป็นคดีแพ่ง ดังนั้นฎีกาของโจทก์ที่ว่าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาไว้แล้ว ทำให้โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้โดยไม่พ้นระยะเวลาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 นั้น จึงไม่เป็นสาระ แก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share