คำสั่งคำร้องที่ 263/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14,31 จำคุก1 ปี ผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 วรรคสอง จำคุก5 ปี และผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 ลงโทษตามมาตรา 268 จำคุก 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 7 ปีคำรับชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี 8 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11,73 วรรคสอง ที่แก้ไขแล้วและพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14,31 วรรคสองที่แก้ไขแล้ว ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แต่การกระทำของจำเลยที่ 1 ในข้อหานี้เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11,73 วรรคสองที่แก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 9 ปี
จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการ (รอยตรา) ปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 265 จำคุก 1 ปี เมื่อนำโทษจำคุก 5 ปี ซึ่งจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมารวมคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 15 ปี จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 11 ปี 3 เดือน ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหาความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ (รอยตรา)นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบ(อันดับ 186 แผ่นที่ 2 และแผ่นที่ 1)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวทั้งในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์ ตีราคาประกัน 100,000 บาท (อันดับ 5,117)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวระหว่างฎีกาตีราคาค่าประกัน 300,000 บาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันโดยเรียกหลักประกันเพิ่มแล้วดำเนินการต่อไป

Share