แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับศาลชั้นต้นสั่งในฎีกาว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว ไม่รับฎีกาจำเลย และสั่งในคำร้องขอทุเลาการบังคับว่า ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะสั่งรับคำร้องนี้
จำเลยเห็นว่า จำเลยได้ยกข้อต่อสู้แก้ข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ในที่ดินพิพาทมาแต่ศาลชั้นต้นและคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ประกอบกับฎีกาของจำเลยได้กล่าว รายละเอียดต่าง ๆ แห่งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้ครบถ้วน จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เกี่ยวกับ การยื่นฎีกา โปรดมี คำสั่งให้รับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 96 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บ้านของจำเลยออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 834 ตำบลพุแค อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี และห้ามมิให้เข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าวอีกต่อไป
ระหว่างฎีกา นางศิริรัตนชัย ภรรยาจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว จึงขอเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลย
ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยฎีกาและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับดังกล่าว(อันดับ 91,92)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 94)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยครอบครองปรปักษ์ที่ดินพิพาทตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 เป็นการโต้เถียงดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
