แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากโจทก์และจำเลยได้ตกลงประนีประนอมกันได้จึงขอถอนฟ้องคดีนี้และให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยแถลงไม่คัดค้าน (อันดับ 34,35)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก6 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 32)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา(อันดับ 33)
ศาลฎีกาทำคำสั่งเสร็จและส่งไปศาลชั้นต้นเพื่อนัดคู่ความฟังแล้วก่อนอ่านคำสั่งศาลฎีกาโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 34)
ศาลชั้นต้นสอบโจทก์แล้วยืนยันขอถอนฟ้อง ส่วนจำเลยแถลงไม่คัดค้านจึงให้ส่งสำนวนพร้อมคำสั่งศาลฎีกาและคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์มาศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 35)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว โจทก์ย่อมถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 35 วรรค 2 อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)จึงให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ
