แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ประกันฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีผิด สัญญาประกันต่อศาล เมื่อศาลนี้มีคำสั่งบังคับตามสัญญาประกัน และศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยแล้ว คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับฎีกาของผู้ประกัน
ผู้ประกันเห็นว่า ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 119 มิได้ห้ามมิให้ผู้ประกันฎีกาแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของผู้ประกันไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 94)
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องจำเลยในความผิดฐานยักยอกศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 วรรคแรก รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือนรวมจำคุก 3 ปี จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยมีนายบุญมี แก้วขอนยาง เป็นผู้ประกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตและตีราคาประกันเป็นเงิน 150,000 บาท ต่อมาผู้ประกันผิดสัญญาไม่ส่งตัวจำเลยไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญา ผู้ประกัน ยื่นคำร้องขอให้งดหรือลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับผู้ประกันเป็นเงิน 75,000 บาท
ผู้ประกันฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 93)
ผู้ประกันจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 94)
คำสั่ง
กรณีนายประกันผิดสัญญาประกันต่อศาล ศาลมีอำนาจสั่งบังคับ ตามสัญญาประกันได้ เมื่อศาลสั่งประการใดแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็น ผู้ประกันย่อมอุทธรณ์ได้ คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งเกี่ยวกับสัญญาประกันแล้ว คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1ให้เป็นที่สุด ย่อมฎีกาต่อไปไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาของผู้ร้องจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง