แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ปรากฏว่าผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาไม่อนุญาตให้ฎีกา จึงไม่รับ จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลย โดยมิได้มีคำสั่งฎีกาของจำเลยในปัญหาข้อกฎหมาย จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าโจทก์ ได้รับคำร้องแล้วหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 รวม 2 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 12 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษา ที่นั่งพิจารณาคดีรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ผู้พิพากษามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 145 แผ่นที่ 3 และแผ่นที่ 2) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 149)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ว่า ฟ้องของโจทก์ บรรยายไม่ครบองค์ประกอบความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 เป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบด้วยมาตรา 225 จึงให้รับฎีกาของจำเลยในปัญหาดังกล่าวไว้พิจารณาต่อไป