แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับฎีกาจำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่า ฟ้องโจทก์มีมูลหรือไม่ศาลชั้นต้นรับฟ้องไว้ชอบหรือไม่ โจทก์มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยและมีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญแห่งคดีซึ่งศาลยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 79 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุก4เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 73)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 77)
คำสั่ง
คดีนี้ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาจำเลยที่ว่าโจทก์ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ถือว่าโจทก์ไม่ติดใจเอาความกับจำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ฎีกาจำเลยข้ออื่นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง