คำสั่งคำร้องที่ 245/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีต้องห้ามคู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นไม่รับรองให้ฎีกา ส่วนปัญหาข้อกฎหมายก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย จึงไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า อำนาจในการวินิจฉัยว่าปัญหาข้อกฎหมายใดมีสาระแก่คดีหรือไม่ มิใช่เป็นอำนาจของผู้พิพากษาในศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 และปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์หยิบยกมาฎีกานั้น คือปัญหาคำให้การจำเลยที่ขัดแย้งกันเอง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 โปรดรับฎีกาของโจทก์ในปัญหาข้อกฎหมายต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังมิได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง เนื้อที่ 23 ไร่เศษหมู่ที่ 1 ตำบลโคกหาร อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท และห้ามจำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องที่ดินพิพาทต่อไป ให้จำเลยชำระเงิน 22,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่16 เมษายน 2537 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 107)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 109)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่า คำให้การของจำเลยขัดกัน เป็นคำให้การที่ไม่ชอบจำเลยไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบ เท่ากับจำเลยรับว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์นั้น เห็นว่า ข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยเพราะอาจทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงได้ จึงให้รับฎีกาของโจทก์ในข้อกฎหมายดังกล่าวไว้ดำเนินการต่อไป

Share