คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5917/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องเป็นพี่ชายผู้ตาย มิใช่บุคคลที่มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายตามที่ ป.วิ.อ. มาตรา 5 (2) บัญญัติไว้ ไม่อาจร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของผู้ร้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกันและบันดาลโทสะ
ระหว่างพิจารณา นายดีอร กุลฉิม พี่ผู้ตาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๘ ปี คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนประกอบทางนำสืบในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๑๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย ๑๕ ปี เมื่อลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุก ๑๐ ปี ให้ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ร่วมและจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า…ส่วนที่นายดีอร กุลฉิม ผู้ร้องฎีกาในทำนองขอเข้าร่วมเป็นโจทก์นั้น ได้ความว่าผู้ร้องเป็นพี่ชายผู้ตาย มิใช่บุคคลที่มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๕ (๒) บัญญัติไว้ จึงไม่อาจร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในคดีนี้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าผู้ร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ไม่ได้จึงชอบแล้ว ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน.

Share