คำสั่งคำร้องที่ 2384/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยยื่นฎีกา อาจทำให้ศาลฎีกามีดุลพินิจเป็นอย่างอื่นหากมีการบังคับคดีไปก่อนจะเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายมากคือไม่อาจกลับคืนสู่ฐานะเดิมดังที่เป็นอยู่ขณะนี้ได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 125แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ที่ดินตามโฉนดที่ 36,5268ถึง 5276,5278 ถึง 5283,5285,5286,5290,5293,5294,5296,5297 แขวงวัดท่าพระ (เกาะท่าพระ) เขตบางกอกใหญ่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร (ธนบุรี) รวม 23 โฉนด ซึ่งโจทก์ซื้อมาจากจำเลยและโจทก์ได้ครอบครองโดยสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมาเป็นเวลากว่าสิบปีได้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และให้เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาธนบุรี จดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดทั้ง23 โฉนดดังกล่าว จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และฟ้องแย้งจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ที่พิพาทรวม 23 โฉนด ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 109,106)

คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์มิได้พิพากษาบังคับให้จำเลยปฏิบัติอย่างไร จึงไม่มีการบังคับที่จะต้องขอทุเลา ให้ยกคำร้อง

Share