คำสั่งคำร้องที่ 2381/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา คดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 168)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อสิ่งก่อสร้าง เช่น คานทั้งสี่ชั้นที่จำเลยทั้งสองสร้างเชื่อมกับคานและเสาของตัวตึกแถวเลขที่ 1110 ของโจทก์ และรื้อสิ่งก่อสร้าง (ผนังตึก) ที่จำเลยทั้งสองได้สร้างปิดบังทางลมแสงสว่าง และปิดกั้นทางหนีไฟของตึกแถว เลขที่ 1110 ของโจทก์ออกไป หากจำเลยทั้งสองไม่ยอมรื้อถอนให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 300,000 บาท และอีกเดือนละ 12,000 บาท นับตั้งแต่เดือนที่ฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยทั้งสองจะปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลเสร็จให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเช่น คาน และกำแพงผนังตึกที่จำเลยทั้งสองร่วมกันสร้างยื่นไปเชื่อมกับตึกแถวเลขที่ 1110 ของโจทก์ตลอดทั้งสี่ชั้น หากจำเลยทั้งสองไม่ยอมรื้อให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์จำนวน 10,000 บาท และอีกเดือนละ 100 บาท นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2527 เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยทั้งสองจะรื้อถอนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวออกไปยกฟ้องแย้งของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์จำนวน 150,000 บาท และเดือนต่อไปเดือนละ 4,000 บาท นับแต่เดือนตุลาคม 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 160,158)
อนึ่ง ในระหว่างอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ได้นำเงินสดจำนวน14,400 บาท มาวางเป็นประกันค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (อันดับ 144,145)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยทั้งสองหรือคนหนึ่งคนใด หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จำนวน 150,000 บาท และอีกเดือนละ 5,000 บาท นับแต่เดือนตุลาคม 2527 เป็นต้นไปจนถึงวันทราบคำสั่งนี้ มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง

Share