คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยได้ชำระหนี้ค่าสินค้าให้โจทก์งวดแรกเป็นการชำระหนี้ให้โจทก์บางส่วน อันถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 172 ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง จึงต้องเริ่มนับอายุความใหม่ ดังนี้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดียังไม่เกิน 2 ปี คดีจึงไม่ขาดอายุความ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันสั่งซื้อเครื่องป้อนและควบคุมเครื่องสูบจ่ายสารเคมีแบบอัตโนมัติ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น92,500 บาท จำเลยทั้งสองจะชำระหนี้ให้โจทก์ครึ่งหนึ่งเมื่อโจทก์ส่งสินค้าให้ครบถ้วน ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจะชำระให้ครบถ้วนหลังจากที่ได้มีการทดลองใช้เครื่องป้อนและควบคุมเครื่องสูบจ่ายสารเคมีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โจทก์ได้ส่งมอบและติดตั้งเครื่องดังกล่าวให้จำเลยทั้งสองให้ใช้งานได้เรียบร้อย จำเลยทั้งสองไม่ชำระราคาส่วนที่เหลือ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน57,330.73 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความเพราะฟ้องคดีเกินกว่าสองปีนับแต่วันที่สั่งซื้อสินค้าตามเอกสารท้ายฟ้อง โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 46,250 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 46,250 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2526 โจทก์จะต้องส่งมอบสินค้าให้จำเลยที่ 1 อย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 11เมษายน 2526 คือภายใน 60 วัน ตามที่ระบุไว้ในใบสั่งซื้อเอกสารหมาย ล.3 และ จ.4 แต่โจทก์ส่งมอบสินค้าให้จำเลยที่ 1 ครบถ้วนเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2526 และโจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม2528 เป็นเวลาเกินกว่าสองปีแล้ว คดีจึงขาดอายุความ ในปัญหาข้อนี้โจทก์นำสืบฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้ค่าสินค้าให้โจทก์งวดแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2527 ตามภาพถ่ายสำเนาใบเสร็จรับเงินเอกสารหมาย จ.8 การชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 เป็นการชำระหนี้ให้โจทก์บางส่วน อันถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง จึงต้องเริ่มนับอายุความใหม่ โจทก์ฟ้องคดียังไม่เกินสองปีคดีจึงไม่ขาดอายุความ…”
พิพากษายืน.

Share