แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามเอกสารที่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้อ้างส่งเป็นพยานชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ปรากฏว่าหนี้ตามสัญญากู้เงินรวม 7 ฉบับ ลูกหนี้นำที่ดินรวม 10 โฉนดจำนองเป็นประกัน (โดยระบุเลขโฉนด) และในหนังสือสัญญากู้เงินทุกฉบับระบุที่ดินที่ลูกหนี้จะนำมาจำนอง ทั้งสัญญาจำนองทุกฉบับก็อยู่ที่เจ้าหนี้ ดังนั้น การที่เจ้าหนี้ละเว้นไม่แจ้งในคำขอรับชำระหนี้ว่าหนี้ที่ขอรับชำระหนี้มีจำนองเป็นประกัน และไม่กรอกรายละเอียดแห่งทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันในบัญชีประกอบคำขอซึ่งจำเป็นต้องกรอก จึงเห็นได้ชัดว่าเจ้าหนี้ประสงค์ขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้ไม่มีประกัน ทั้งนี้ เพื่อจะเอาหลักประกันไว้บังคับชำระหนี้เป็นการเอาเปรียบเจ้าหนี้ผู้อื่นด้วย หาใช่ว่าการละเว้นนั้นเกิดขึ้นโดยพลั้งเผลอไม่คดีจึงไม่มีเหตุอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้มีประกันภายในเงื่อนไขตามมาตรา 96 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ ศาลชอบที่จะสั่งให้สิทธิจำนองเหนือที่ดินนั้นเป็นอันระงับไปตามมาตรา 97
ย่อยาว
กรณีสืบเนื่องจากบริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เป็นจำนวนเงิน ๔,๗๔๗,๐๗๐ บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้แยกประเภทหนี้ออกได้ดังนี้ คือ
(๑) หนี้ตามมูลเช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัด ๒ ฉบับ จำนวนเงินฉบับละ ๒๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
(๒) หนี้ตามมูลเช็คธนาคารศรีนคร จำกัด รวม ๘๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
(๓) หนี้ตามสัญญากู้เงินรวม ๗ ฉบับ รวมต้นเงินกู้ทั้งสิ้น ๒,๐๓๘,๗๑๕ บาท พร้อมดอกเบี้ย
(๔) หนี้ตามสัญญากู้เงินลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๑๘ จำนวนเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
(๕) หนี้ตามสัญญากู้เงินลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๑๙ จำนวนเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
เจ้าหนี้ทั้งหลายตรวจคำขอรับชำระหนี้แล้ว ไม่มีผู้โต้แย้ง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วฟังว่า ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้รวมจำนวนหนี้ทั้งหมดเป็นเงิน ๔,๗๒๔,๙๒๘.๗๔ บาท เจ้าหนี้ขอเกินมา ๒๒,๑๔๑.๒๖ บาท เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นควรให้บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ ได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ไม่มีประกันจำนวน ๔,๗๒๔,๙๒๘.๗๔ บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามมาตรา ๑๓๐ (๘) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักรราช ๒๔๘๓ ที่ขอเกินมาให้ยกเสีย ส่วนที่ลูกหนี้นำที่ดินโฉนดที่ ๕๘๘๗๒ ถึง ๕๘๘๗๖ ,๗๘๕๓๔,๗๘๕๓๘,๗๘๕๔๐ และ ๗๘๕๔๙ (ที่ถูกคือ ๗๘๕๔๑) มาจำนองเป็นประกันหนี้ แต่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้แบบเจ้าหนี้ไม่มีประกัน จึงเห็นควรให้สิทธิจำนองเหนือที่ดิน ดังกล่าวเป็นอันระงับไปตามมาตรา ๙๗ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ไม่มีประกัน จำวน ๔,๗๒๔,๙๒๘.๗๔ บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ และให้สิทธิจำนองเหนือที่ดินโฉนดที่ ๕๘๘๗๒ ถึง ๕๘๘๗๖,๗๘๕๓๔,๗๘๕๓๘,๗๘๕๔๐ และ ๗๘๕๘๙ (ที่ถูกคือ ๗๘๕๔๑) เป็นอันระงับไปตามมาตรา ๙๗ พระราบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้อุทธรณ์ขอให้ได้รับชำระหนี้ตามสัญญากู้เงิน ๗ ฉบับ ซึ่งลูกหนี้นำที่ดินมาจำนอง อย่างเจ้าหนี้มีประกัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
บริษัทภัทรธนกิจ จำกัด เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่เจ้าหนี้ขอแถลงการณ์ด้วยวาจาเห็นว่าไม่จำเป็นแก่คดี ให้งดเสีย
คดีมีปัญหาว่า ที่เจ้าหนี้ละเว้นไม่แจ้งว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกันเกิดขึ้นโดยพลั้งเผลอหรือไม่ ควรอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้มีประกันภายในเงื่อนไขตามมาตรา ๙๖ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ หรือไม่
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ตามเอกสารที่เจ้าหนี้อ้างส่งเป็นพยานชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หนี้ตามสัญญากู้เงินรวม ๗ ฉบับ ลูกหนี้นำที่ดิ รวม ๑๐ โฉนด จำนองเป็นประกัน คือ โฉนดที่ ๕๘๘๗๒ ถึง ๕๘๘๗๖,๗๘๕๓๔,๗๘๕๓๗,๗๘๕๓๘,๗๘๕๔๐ และ ๗๘๕๔๑ ในหนังสือสัญญากู้เงินทุกฉบับระบุที่ดินที่ลูกหนี้จะนำมาจำนอง ทั้งสัญญาจำนองทุกฉบับก็อยู่ที่เจ้าหนี้ การที่เจ้าหนี้ละเว้นไม่แจ้งในการขอรับชำระหนี้ว่าหนี้ที่ขอรับชำระหนี้มีจำนองเป็นประกันและไม่กรอกรายละเอียดแห่งทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันในบัญชีประกอบคำขอซึ่งจำเป็นต้องกรอกเห็นชัดได้ว่าเจ้าหนี้ประสงค์ขอรับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้ไม่มีประกัน ทั้งนี้ เพื่อจะเอาหลักประกันไว้บังคับชำระหนี้เป็นการเอาเปรียบเจ้าหนี้ผู้อื่นด้วย หาใช่ว่าการละเว้นนั้นเกิดขึ้นโดยพลั้งเผลอไม่ คดีไม่มีเหตุอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้มีประกันภายในเงื่อนไขตามมาตรา ๙๖ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ ที่ศาลล่างทั้งสองให้สิทธิจำนองเหนือที่ดินเป็นอันระงับไปตามมาตรา ๙๗ ชอบแล้ว
โดยที่ศาลล่างทั้งสองให้สิทธิจำนองที่ดินเป็นอันระงับไปรวม ๙ โฉนด ไม่กล่าวถึงโฉนดที่ ๗๘๕๓๗ ซึ่งลูกหนี้จำนองไว้อีกแปลงหนึ่งและระบุเลขที่โฉนดคลาดเคลื่อน คือ ๗๘๕๔๙ ซึ่งที่ถูกคือ ๗๘๕๔๑ ศาลฎีกาจึงเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้เจ้าหนี้คืนที่ดินโฉนดที่ ๗๘๕๓๗ แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อีกแปลงหนึ่ง และให้สิทธิจำนองเหนือที่ดินแปลงนี้เป็นอันระงับไปกับให้แก้เลขโฉนดที่ ๗๘๕๔๙ เป็น ๗๘๕๔๑ นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.