แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีโอกาสที่จะชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ทั้งสี่ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 79 แผ่นที่ 2)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ทั้งสี่ฟ้องให้จำเลยชำระเงินค่าหุ้นระหว่างพิจารณาโจทก์ทั้งสี่และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระเงินจำนวน 3,800,000 บาท ให้โจทก์ด้วยวิธีผ่อนชำระเดือนละ 100,000 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ไปแล้ว 1,900,000 บาทยังคงค้างชำระอยู่อีก 1,900,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยได้ฟ้องโจทก์ที่ 4 เรียกเงินค่าหุ้นเป็นอีกคดีหนึ่ง ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามคดีหมายเลขแดงที่ 1471/2521 ให้โจทก์ที่ 4ชำระเงินค่าหุ้นที่ยังขาดอยู่ทั้งหมด 1,000,000 บาท แก่จำเลยพร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนรวมจำนวนหนี้ตามคำพิพากษาที่โจทก์ที่ 4 จะต้องชำระแก่จำเลยคำนวณถึงวันยื่นคำร้องนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 1,821,719 บาท จำเลยขอนำหนี้ที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์เดือนละ 100,000 บาท มาหักกลบลบหนี้กับหนี้ที่โจทก์ที่ 4 จะต้องชำระให้แก่จำเลยแล้วจำเลยจะนำเงินที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์ในส่วนที่ยังขาดอยู่ชำระให้แก่โจทก์ทันทีศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่า ตามสัญญาประนีประนอมยอมความไม่มีข้อตกลงให้นำหนี้ที่จำเลยต้องชำระไปหักกลบลบหนี้ที่โจทก์ที่ 4เป็นหนี้จำเลยตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 1471/2521 ได้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอหักกลบลบหนี้เพราะขัดต่อเจตนาของโจทก์กับจำเลยในขณะทำสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 341 วรรค 2 ให้ยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 78,77)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่ค้างชำระอยู่ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง