คำสั่งคำร้องที่ 2320/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า ข้อความที่ตัดสินมิได้เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา ยกคำร้อง และสั่งฎีกาว่า กรณีต้องห้ามมิให้ฎีกาเพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรกประกอบกับได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาแล้วจึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า เนื่องจากคดีนี้จำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายทุกคนจนเป็นที่พอใจแล้ว แต่หลักฐานการชดใช้ค่าเสียหายประกอบคำรับสารภาพของจำเลยมิได้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาล โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของจำเลย เพราะจำเลยเข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของทางราชการที่จะต้องส่งหลักฐานขึ้นสู่ศาลเอง ดังนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในการกำหนดโทษแก่จำเลย ขอได้โปรดอนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาเพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณากำหนดโทษจำเลยในสถานเบาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291,300,390,90 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,157,162 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักให้จำคุก 10 ปีจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของจำเลยด้วย
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา และสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยดังกล่าว (อันดับ 19,18)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 20)

คำสั่ง
คดีนี้ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาได้ ดังนี้ ที่จำเลยฎีกาขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาเพื่อที่ศาลฎีกาจะพิจารณาลดโทษให้นั้น เมื่อฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจึงรับไว้พิจารณาไม่ได้ให้ยกคำร้อง

Share