คำสั่งคำร้องที่ 2308/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เรื่องตัวความแต่งตั้งทนายความกับอำนาจของพนักงานอัยการที่จะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 12(2) นั้น เป็นคนละเรื่องกัน เดิมจำเลยทั้งสองได้แต่งตั้งพนักงานอัยการคนก่อนสองนายเป็นทนายความ ต่อมาภายหลังจำเลยที่ 2 ได้แต่ง ว.พนักงานอัยการเป็นทนายความ และชั้นฎีกาปรากฏว่าจำเลยทั้งสองฎีกา ว.เป็นผู้ทำฎีกาและลงชื่อเป็นผู้ฎีกา ศาลชั้นต้นได้สั่งรับฎีกาไว้แล้ว ต่อมาภายหลังศาลชั้นต้นได้สั่งเพิกถอน ไม่รับฎีกาเฉพาะของจำเลยที่ 1 ด้วยเหตุที่จำเลยที่ 1 ไม่ได้แต่ง ว. เป็นทนายความไว้ในสำนวน ตามพฤติการณ์เป็นการผิดหลงแม้จะเป็นการปฏิบัติผิดบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็เป็นการสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 ศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาให้จำเลยที่ 1 จัดการแต่ง ว. เป็นทนายความในชั้นฎีกาเสร็จแล้วให้ดำเนินการต่อไป

ย่อยาว

ความว่า จำเลยทั้งสองยื่นฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา โดยนายวิชัย โกญจนาวรรณ พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายจำเลยทั้งสอง เป็นผู้ลงชื่อในฎีกาและคำร้อง ศาลชั้นต้นสั่งรับ แต่ต่อมาเพิกถอนคำสั่งเฉพาะส่วนที่รับฎีกาและคำร้องของจำเลยที่ 1 เสีย เพราะนายวิชัย โกญจนาวรรณ ไม่ได้รับแต่งตั้งจากจำเลยที่ 1 ให้เป็นทนายความดำเนินคดีแทน

จำเลยที่ 1 เห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างประจำของกรมทางหลวง จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรมในรัฐบาลถูกโจทก์ฟ้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายในผลแห่งการละเมิด ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในหน้าที่ราชการ จำเลยทั้งสองได้ขอให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดแก้ต่างคดี สำนักงานอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการนายหนึ่งเป็นทนายแก้ต่างให้จำเลยทั้งสองจึงได้แต่งให้พนักงานอัยการผู้นั้นเป็นทนายความแล้วต่อมาเมื่อพนักงานอัยการคนเดิมย้ายไปรับราชการที่อื่น และนายวิชัย โกญจนาวรรณ เข้ามาดำเนินคดีนี้แทนนายวิชัย โกญจนาวรรณ จึงมีอำนาจดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้ตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11, 12 โดยไม่จำต้องได้รับแต่งตั้งจากจำเลยที 1 อีก โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับในส่วนของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาด้วย

หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 134,354 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับและต่อมาเพิกถอนคำสั่งรับเฉพาะส่วนของจำเลยที่ 1 ดังกล่าว (อันดับ 94, 93)

จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 97)

คำสั่ง

พิเคราะห์แล้ว เรื่องตัวความแต่งตั้งทนายความกับอำนาจของพนักงานอัยการที่จะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติพนักงานอัยการพ.ศ. 2498 มาตรา 12(2) นั้น เป็นคนละเรื่องกัน เดิมจำเลยทั้งสองได้แต่งพนักงานอัยการคนก่อนสองนายเป็นทนายความ ต่อมาภายหลังจำเลยที่ 2 ได้แต่งนายวิชัย โกญจนาวรรณ พนักงานอัยการเป็นทนายความและชั้นฎีกาปรากฏว่าจำเลยทั้งสองฎีกา โดยนายวิชัย โกญจนาวรรณ เป็นผู้ทำฎีกา และลงชื่อเป็นผู้ฎีกา ศาลชั้นต้นได้สั่งรับฎีกาไว้แล้ว ต่อมาภายหลังศาลชั้นต้นได้สั่งเพิกถอนไม่รับฎีกาเฉพาะของจำเลยที่ 1 ด้วยเหตุที่จำเลยที่ 1 ไม่ได้แต่งนายวิชัย โกญจนาวรรณ เป็นทนายความไว้ในสำนวน เห็นว่า ตามพฤติการณ์เป็นการผิดหลง แม้จะเป็นการปฏิบัติผิดบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็เป็นการสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้ทำเสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 จึงให้ศาลชั้นต้นกำหนดเวลาให้จำเลยที่ 1 จัดการแต่งนายวิชัย โกญจนวรรณ เป็นทนายความในชั้นฎีกาเสร็จแล้วให้ดำเนินการต่อไป

Share