คำสั่งคำร้องที่ 2272/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 จึงไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วม
โจทก์ร่วมเห็นว่า ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจนำเอกสารที่จำเลยที่ 1ปลอมลายเซ็นผู้เสียหายมาพิจารณาพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยที่ 1และศาลอุทธรณ์ก็หยิบยกขึ้นพิจารณาแล้ว จึงเป็นการพิจารณาที่ไม่มีกฎหมายใดให้ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาว่าเอกสารปลอมกลายเป็นเอกสารที่แท้จริง เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์และจำเลยที่ 1 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ217 แผ่นที่ 2, อันดับ 218 แผ่นที่ 2)
ระหว่างพิจารณา นายมณเฑียรวุฒิคุณ ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และรับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300,390 และฐานขับรถโดยประมาทตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,157 ให้เรียงกระทงโดยลงโทษฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส บทหนักจำเลยที่ 1 ให้ปรับ 3,000 บาท จำเลยที่ 2 ปรับ 1,000 บาท ฐานขับรถโดยประมาท จำเลยที่ 1 ปรับ 300 บาท จำเลยที่ 2 ปรับ 100 บาทรวมจำเลยที่ 1 ให้ปรับ 3,300 บาท จำเลยที่ 2 ให้ปรับ 1,100 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 อันเป็นบทหนักที่สุด จำเลยที่ 1ปรับ 3,000 บาท จำเลยที่ 2 ปรับ 1,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ210)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 212)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ร่วมฎีกาว่าศาลอุทธรณ์หยิบยกเอกสารที่จำเลยที่ 1 ทำปลอมมาวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 นั้นเห็นว่า ศาลอุทธรณ์มิได้อาศัยเหตุเพียงเอกสารซึ่งโจทก์ร่วมโต้แย้งอยู่ว่า เป็นเอกสารปลอมอย่างเดียวขึ้นเป็นข้อวินิจฉัย แต่ศาลอุทธรณ์อาศัยเหตุอย่างอื่นขึ้นเป็นข้อวินิจฉัยด้วย ดังนั้น ฎีกาของโจทก์ร่วมจึงเป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจการรับฟังพยานหลักฐานของศาลเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งห้ามคู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share