คำสั่งคำร้องที่ 2271/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงไม่รับคำร้อง
จำเลยเห็นว่า จำเลยมิได้มีเจตนาหรือจงใจละทิ้งคดีแต่เหตุที่ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาล่าช้า เนื่องจากทนายจำเลยเมื่อยื่นฎีกาแล้วก็มิได้ติดตามฟังคำสั่งว่าศาลจะรับฎีกาหรือไม่ และจำเลยก็ไม่สามารถยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาเองได้ เนื่องจากจำเลยไม่รู้กฎหมายอีกประการหนึ่งคือ เมื่อทนายจำเลยและจำเลยยังมิได้ฟังคำสั่งศาล การยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา จึงไม่พ้นกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด โปรดมีคำสั่งรับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 80 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก มาตรา 268 ประกอบมาตรา 265 การกระทำของ จำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานรับของโจร จำคุก 5 ปี ฐานใช้ เอกสารราชการปลอม จำคุก 3 ปี รวมเป็นจำคุกจำเลย 8 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง นับว่ามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี ริบแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ จำนวน 2 แผ่น ของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหา ข้อเท็จจริง จำเลยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ไม่รับเป็นฎีกาของจำเลยทั้งสองกระทง (อันดับ 74 แผ่นที่ 2)
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว (อันดับ 77)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 80 แผ่นที่ 2)

คำสั่ง
จำเลยยื่นฎีกาวันที่ 7 กรกฎาคม 2537 และตามแบบพิมพ์ท้ายฎีกา มีข้อความว่า “รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว” ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับในวันเดียวกัน ถือว่าจำเลยทราบ คำสั่งศาลชั้นต้นในวันนั้น จำเลยเพิ่งยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2537 พ้นกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันฟังคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 224 จึงต้องห้าม ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย

Share