คำสั่งคำร้องที่ 2236/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อกฎหมาย ที่ว่าโจทก์ทำสัญญาให้เช่าแทนมารดาโดยไม่มีหนังสือตั้งตัวแทน สัญญาเช่าจึงบังคับไม่ได้ ห้ามฟ้องร้องบังคับคดีนั้นเป็น ข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี ฎีกานอกนั้นเป็นฎีกาใน ข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกา จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า การที่โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือเกี่ยวกับการตั้งตัวแทนมาลงนามในหนังสือสัญญาเช่าที่ดินพิพาทจึงเป็นการขัดต่อมาตรา 538 และมาตรา 798 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ปัญหาข้อกฎหมายนี้จึงเป็นสาระสำคัญแก่คดีส่วนฎีกาข้ออื่น ๆ นั้นเป็นฎีกาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้นศาลฎีกามิอาจแยกพิจารณาพิพากษาได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 75)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากที่ดินตามฟ้องของโจทก์และให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ในอัตราเดือนละ 2,560 บาท นับแต่วันที่1 มกราคม 2532 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์เสร็จสิ้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 64)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 67)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่า โจทก์ทำหนังสือสัญญาเช่าที่พิพาทแทนมารดาโจทก์กับจำเลยโดยมารดาโจทก์ ไม่ได้มีหนังสือตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนในขณะที่ที่พิพาทยัง เป็นของมารดาโจทก์อยู่ตามเอกสารหมาย จ.2 อันจะทำให้ สัญญาเช่าดังกล่าวใช้บังคับไม่ได้นั้น ย่อมมีผลทำให้จำเลย ไม่มีสิทธิจะอยู่ในที่พิพาทมาแต่ต้น เมื่อโจทก์ได้รับโอนที่พิพาทจากมารดามาก่อนฟ้อง โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้ ดังนั้นฎีกาของจำเลยในข้อที่ว่าสัญญาเช่าเอกสารหมาย จ.2 มารดาโจทก์ไม่ได้มีหนังสือให้โจทก์ทำแทนใช้บังคับ ไม่ได้นั้น เป็นฎีกาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ

Share