คำสั่งคำร้องที่ 2213/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของ จำเลยทั้งหมดเป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ไม่รับอุทธรณ์
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ที่ว่า โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการแผนก คลังสินค้าของจำเลยประมาทเลินเล่อทำให้สินค้าในคลังสินค้า สูญหาย โดยละเลยไม่จัดทำบัญชีควบคุมสินค้าไม่ได้ตรวจสอบ ใบสั่งสินค้า ใบสั่งซื้อและไม่ดำเนินการควบคุมตรวจนับจำนวน สินค้าให้ถูกต้องตามใบสั่งสินค้า เป็นเหตุให้จำเลยได้รับ ความเสียหายอย่างร้ายแรง ประกอบกับโจทก์มาทำงานสาย ฝ่าฝืน ระเบียบข้อบังคับตามที่ระบุในหนังสือเลิกจ้างของจำเลยนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 50,51)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินสินจ้างแทนการ บอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 34,666 บาท ค่าชดเชยจำนวน 124,800 บาท เงินสมทบจำนวน 43,436 บาท และค่าเสียหายจำนวน 62,400 บาท แก่โจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกเสีย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 43)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 47)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า โจทก์ประมาทเลินเล่อ ทำให้สินค้าในคลังสินค้าสูญหาย และโจทก์มาทำงานสายฝ่าฝืน ระเบียบข้อบังคับตามที่ระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้างของจำเลยนั้น ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ประมาทเลินเล่อทำให้ สินค้าของจำเลยสูญหายและมิได้มาทำงานสาย อุทธรณ์ของจำเลย จึงเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share