แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์เห็นว่า โจทก์ได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์หรือไม่ จะต้องจ่ายเงินต่าง ๆ ให้โจทก์ตามฟ้องหรือไม่เพียงใด อีกทั้งการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าก็ดี การที่ศาลแรงงานกลางมิได้ยกประเด็นเกี่ยวกับเงินค่าชดเชยขึ้นวินิจฉัยก็ดี ล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมายเช่นกัน โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 29)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเงิน 6,691 บาท กับค่าชดเชยเป็นเงิน 20,073 บาทแก่โจทก์ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 25)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 27)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์สมัครใจออกจากงานไปเอง โจทก์อุทธรณ์ว่าตามคำเบิกความของโจทก์ต้องฟังว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ ไม่ควรรับฟังคำเบิกความของตัวจำเลยและอุทธรณ์ว่าเหตุแห่งการเลิกจ้างเป็นประการใด ดังนี้ เป็นการโต้แย้งคัดค้านการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง