แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า การสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์สั่งไม่ให้ทุเลาแล้ว จำเลยจะฎีกาไม่ได้ เทียบแนวฎีกาที่ 275/2519ไม่รับฎีกา ฯลฯ
จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 วรรคสี่ เมื่อศาลอุทธรณ์รับคำขอทุเลาการบังคับแล้วจะต้องสั่งทุเลาการบังคับตามขอ ภายใต้เงื่อนไขใด ๆ หรือไม่ก็ได้ศาลอุทธรณ์จะสั่งยกคำร้องขอทุเลาการบังคับไม่ได้ เพราะบทบัญญัติดังกล่าวไม่ได้ให้อำนาจศาลอุทธรณ์ไว้เช่นนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาคำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบ โปรดสั่งให้รับฎีกาคำสั่งของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 12)
สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 2827 ตำบลหนองปรง (หนองจิก)อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง600 บาทและค่าเสียหายปีละ 500 บาทนับแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2527เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะออกจากที่ดินดังกล่าว จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งคำร้องว่า พิเคราะห์แล้ว คดีไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 5)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 8)
ไม่ปรากฏใบแต่งทนายความของจำเลยในสำนวนที่ส่งมาศาลฎีกา
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำสั่งของศาลในเรื่องทุเลาการบังคับเป็นอำนาจเฉพาะศาล เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องทุเลาการบังคับอย่างใดแล้วคู่ความจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ