คำสั่งคำร้องที่ 214/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54จึงไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลแรงงานกลางพิพากษาขัดต่อพยานเอกสารและพยานบุคคลที่จำเลยได้นำสืบในชั้นพิจารณา จึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 26)
คดีสองสำนวนนี้ โจทก์และจำเลยเป็นคู่ความเดียวกันศาลแรงงานกลางพิจารณาพิพากษารวมกัน
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงิน 11,700 บาทแก่โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 23)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 26)
ไม่ปรากฏใบแต่งทนายความของจำเลยคดีของศาลแรงงานกลางหมายเลขแดงที่ 6352/2529 ในสำนวนที่ส่งมาศาลฎีกา

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังคำพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์มิใช่โจทก์ขาดงานดังที่จำเลยอ้างการที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้เลิกจ้างโจทก์แต่เป็นเพราะโจทก์ไม่พอใจที่นายวันชัย สกุลเลิศวิทยา หุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยตักเตือนเรื่องการทำงานแล้วขอออกจากงานและขาดงานไปเองโดยมิได้บอกกล่าว ดังนี้ เป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์
ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์มิใช่ลูกจ้างประจำรายเดือนก็ดีโจทก์ขาดงานโดยมิได้บอกกล่าวเกินกว่าสามวัน อันมิใช่ความผิดของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าก็ดี จำเลยมิได้ให้การต่อสู้คดีไว้จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในศาลแรงงานกลางต้องห้ามอุทธรณ์
ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share