คำสั่งคำร้องที่ 210/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมกับคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 4,6,9,14,31,35 ฯลฯพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4,7,11,47,48,54,72 ตรี,73,74,74 ทวิ ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32,33,83,91 ฯลฯให้เรียงกระทงลงโทษ ข้อหาแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 4 ปี ปรับ 6,000 บาทข้อหามีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 ปี ปรับ6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกข้อหาแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต 2 ปีปรับ 3,000 บาท ข้อหามีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 2 ปี ปรับ 3,000 บาท
ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว สมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไปจึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 11,73(1) จำคุก 1 ปี ส่วนความผิดฐานแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปีสถานเดียว รวมเป็นโทษจำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 2 ปี 6 เดือน โทษจำคุกไม่รอการลงโทษนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบ (อันดับ 32,31)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน150,000 บาท (อันดับ 5)

คำสั่ง
อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตีราคาค่าประกัน 200,000 บาท(สองแสนบาท) ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและหลักประกันเพิ่มแล้วดำเนินการต่อไป

Share