แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 3 ที่ 4 ฎีกา มีโอกาสชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 แถลงคัดค้าน(อันดับ 259)
คดีทั้งสามสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 โดยให้จำเลยที่ 2 ที่ 3ร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 53,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จและร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 38,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ในจำนวนดังกล่าวให้จำเลยที่ 4 ร่วมชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และที่ 2 เป็นจำนวนคนละ 25,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะ ชำระเสร็จ ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 3เป็นเงิน 45,212 บาท และชำระแก่โจทก์ที่ 4 เป็นเงิน31,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินแต่ละรายดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะ ชำระเสร็จให้ยกฟ้องสำนวนคดีดำที่ 12589/2527 ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ที่ 4 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 254,253)
จำเลยที่ 3 ที่ 4 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์โดยให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 คนใดคนหนึ่งหรือ ร่วมกันหาประกันมาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้น กำหนด มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง แต่จำเลยที่ 3 ที่ 4มิได้วางหลัก ประกันตามคำสั่งศาลชั้นต้น (อันดับ 234,235 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 3 ที่ 4 หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมทั้งดอกเบี้ยมีกำหนด 9 ปี แก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ทุกจำนวนรวมกัน มาให้จนเป็นที่พอใจของศาลชั้นต้นและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง
