แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกา ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า จำเลยได้ฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าจำเลยไม่ใช่ผู้กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง กล่าวคือจำเลยไม่ได้เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาข้อเท็จจริง และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 60)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,78,157,160,163 ข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุก 2 เดือน ข้อหาหลบหนีไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงในทันที ให้จำคุก 1 เดือนรวมจำคุก 3 เดือน ฯลฯ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 57)
ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 60)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยมิใช่เป็นผู้ขับรถที่เกิดเหตุเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง มิใช่ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องอันเป็นข้อกฎหมาย ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง