คำสั่งคำร้องที่ 1975/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า แม้คดีนี้ศาลจะมิได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ก็ตาม แต่ก็ได้พิพากษาลงโทษปรับจำเลยถึง 139,776 บาท ซึ่งเกินกว่าโทษปรับตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 คดีจึงไม่ ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 68) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ พระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งรวมค่าอากรเป็นเงิน 141,960 บาทไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนค่าปรับมีกำหนด 1 ปี ริบของกลาง ฯลฯ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยเป็นเงินสี่เท่า ของราคาของซึ่งรวมอากรเป็นเงิน 139,776 บาท นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 66) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 68)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย เป็น เงิน 141,960 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยเป็นเงิน 139,776 บาท ไม่ได้แก้บทมาตราด้วย เป็นการแก้ไขเล็กน้อยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกกรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 219 ตามที่จำเลยอุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share