แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งสิบสองอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ทั้งสิบสองเห็นว่า อุทธรณ์ที่ว่าโจทก์ทั้งสิบสองนำพยานเข้าสืบจนข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นนายจ้างของโจทก์ ทั้งสิบสอง การที่ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงอย่างอื่น และวินิจฉัยว่าจำเลยมิใช่เป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งสิบสองนั้น เป็นการวินิจฉัยคดีขัดต่อพยานหลักฐานในสำนวนเป็นอุทธรณ์ ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสอบสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 70)
คดีทั้งสิบสองสำนวนนี้ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รวมพิจารณาเข้าด้วยกัน โดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่าโจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ที่ 12
โจทก์ทั้งสิบสองสำนวนฟ้องขอให้ศาลแรงงานกลางพิพากษา ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจ้างหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างโดยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชยและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่โจทก์ทั้งสิบสอง พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสิบสองอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 66)
โจทก์ทั้งสิบสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 68)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังคำพยานโจทก์ จำเลยแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ทั้งสิบสองเป็นลูกจ้างของบริษัทศรีราชาคอนแทรคเตอร์ จำกัด และบริษัทดังกล่าวจัดส่งโจทก์ทั้งสิบสองไปทำงานให้จำเลย ข้อเท็จจริงยังฟังมิได้ว่า โจทก์ทั้งสิบสองเป็นลูกจ้างของจำเลย โจทก์ทั้งสิบสองอุทธรณ์ ให้ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งสิบสอง จึงเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้วยกคำร้อง