แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ข้อ 2.1 ที่ว่า ศาลแรงงานกลางดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบด้วยกฎหมาย และข้อ 2.2 ที่ว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 42)
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างจำนวน 210,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันแรกที่โจทก์พึงจะได้รับเงินเดือนจากจำเลย จนกว่าจำเลยจะชำระเงิน ให้โจทก์เสร็จ
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว(อันดับ 37)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 38)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ข้อแรกที่ว่า ศาลแรงงานกลาง ให้สืบพยานโจทก์ในวันเดียวกันกับวันนัดพิจารณาและไม่อนุญาต ให้ โจทก์เลื่อนคดี ขัดต่อพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 39 วรรคแรกหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนอุทธรณ์ข้อสองโจทก์อุทธรณ์ว่า ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยโดยรับฟังพยานหลักฐานของจำเลย แต่โจทก์เห็นว่าพยานหลักฐานของจำเลยมีเหตุไม่ควรรับฟังอยู่ หลายประการนั้น เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ของศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54ให้รับอุทธรณ์ข้อแรกของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป