คำสั่งคำร้องที่ 1943/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟัง พยานหลักฐาน จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงอันเป็นการต้องห้ามจึงไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ข้อ 5.1 ที่ว่า การที่ศาลแรงงานกลางไม่วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทข้อ 1 ที่ว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ 9 กันยายน 2532 ในเรื่องลูกจ้างขอเกษียณอายุก่อนกำหนดมีผลใช้บังคับหรือไม่นั้น เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอุทธรณ์ข้อ 5.2 ที่ว่า ศาลแรงงานกลางแปลความหมายของคำว่า “เรียนผู้จัดการโรงงาน เพื่อพิจารณาอนุมัติ” และคำว่า “เรียนกรรมการผู้จัดการ เพื่อพิจารณาอนุมัติตามที่ขอมา” ซึ่งเขียนไว้ตอนท้าย เอกสารหมาย จ.3 ไม่ถูกต้องนั้น ล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 31) โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ 232,770 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่โจทก์ ลาออกจนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ได้รับอนุมัติ ให้ลาออกเท่านั้น ไม่ได้รับอนุมัติให้เกษียณอายุก่อนกำหนดจำเลยจึงไม่ต้องจ่ายเงินค่าเกษียณอายุให้โจทก์ พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 26) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 29)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ข้อที่ว่า ศาลแรงงานกลางไม่วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทที่ได้กำหนดไว้ทุกข้อเป็นการชอบ หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย และอุทธรณ์ที่ว่าข้อความ ที่ผู้จัดการโรงงานของจำเลยเขียนลงในเอกสารหมาย จ.3 ว่า เพื่อพิจารณาอนุมัติเป็นการอนุมัติให้โจทก์เกษียณอายุก่อน ครบกำหนดแล้วหรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับการแปลความหมาย ของข้อความในเอกสาร ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงให้รับอุทธรณ์ ของโจทก์ไว้พิจารณา และให้ศาลแรงงานกลางดำเนินการต่อไป

Share