คำสั่งคำร้องที่ 1908/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท เป็นกรณีต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของผู้ร้อง คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
ผู้ร้องเห็นว่า ฎีกาที่ว่า ศาลอุทธรณ์ตีความคำพิพากษาของศาลชั้นต้นคดีหมายเลขแดงที่ 8001/2534 ในเรื่องดอกเบี้ยโดยขัดต่อกฎหมาย เป็นปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งรับฎีกาของผู้ร้องด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์และจำเลยได้รับสำเนา คำร้องแล้วหรือไม่
กรณีเป็นชั้นขอรับชำระหนี้จำนอง
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 112853 แขวงหัวหมาก(หัวหมากใต้)เขตบางกะปิกรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย เพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ผู้รับจำนองที่ดินดังกล่าวและเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยเป็นเงินจำนวน 645,458 บาท จากเงินที่จะได้รับจากการขาย หรือจำหน่ายทรัพย์จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่นทั้งหมดในฐานะที่ผู้ร้อง เป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิในมูลหนี้จำนอง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ จำนองก่อนเจ้าหนี้อื่น แต่ทั้งนี้ไม่ให้เกินจำนวนเงิน477,062.22 บาท (คิดถึงวันที่ 27 มกราคม 2535) พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 16.5 ต่อปี จากต้นเงิน 347,769.87 บาท นับแต่วันที่ 28 มกราคม 2535 เป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับชำระหนี้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 42)
ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 43)

คำสั่ง
ผู้ร้องฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์แปลความหมายของคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีหมายเลขแดงที่ 8001/2534 ว่าจำนวนเงินที่ผู้ร้องมีสิทธิได้รับเป็นจำนวน 477,062.22 บาท เป็นการไม่ชอบที่ถูกตามความหมายของคำพิพากษาดังกล่าวผู้ร้องต้องมีสิทธิได้รับเป็นจำนวนเงิน 666,174.76 บาท เป็นฎีกาในเรื่องการแปลความหมายของคำพิพากษา จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาของผู้ร้องไว้ดำเนินการต่อไป

Share