คำสั่งคำร้องที่ 1890/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า รับฎีกา ของจำเลยในส่วนนอกเหนือจากข้อ 2.4 และข้อ 2.5 ซึ่งตามฎีกา ข้อ 2.4 และ 2.5 เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เพราะเป็นเรื่องโต้แย้ง ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 2.4 ในประเด็นที่ว่า การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ไม่จำต้องนำสืบรายละเอียด เพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยให้ปราศจากข้อสงสัยถึงมีข้อสงสัย ก็ไม่ต้องยกเป็นคุณแก่จำเลยนี้ขัดต่อหลักกฎหมายในส่วน ภาระการพิสูจน์ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 29 หรือไม่ และประเด็นที่ว่าเอกสารหมาย ป.จ.10 นั้นเป็นพยานเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นสำเนาเอกสารและมิได้ปรากฏในชั้นสอบสวน และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกสำนวนเป็นการรับฟังพยานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และฎีกาข้อ 2.5ในประเด็นที่ว่า คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่นั้น ล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้น โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลย ข้อ 2.4และ 2.5 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 124)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 มาตรา 28 ทวิ,64 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 100,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน พิเคราะห์พฤติการณ์ แห่งคดีแล้วเห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกไว้ 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับกักขังแทน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 119)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 122)

คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกฎีกาจำเลยข้อ 2.4 และ 2.5 โต้แย้งคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยพยานหลักฐานและพฤติการณ์แห่งคดีทั้งข้อเท็จจริงว่าจำเลยยินยอมให้ผู้อื่นเอาเรือออกไปทำการประมง และละเมิดน่านน้ำประเทศเวียตนามและลูกเรือตามรายชื่อ ในเอกสารหมาย จ.10 เป็นลูกเรือจำเลย ในการวินิจฉัย แม้เอกสารบางฉบับจะเป็นสำเนา แต่ได้วินิจฉัยประกอบกับพยานอื่น ทั้งหมดแล้วรับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าว จำเลยฎีกาโต้แย้งว่า พยานโจทก์ยังพิสูจน์ความผิดไม่ได้ จึงเป็นการโต้แย้งดุลพินิจ การรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลชั้นต้น มีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยในส่วนนี้ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share