แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของโจทก์ทั้งสองโดยกำหนดให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาเสียภายใน 15 วัน โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งและเห็นว่าถ้าหากจะไม่ให้มีการทุเลาการชำระค่าธรรมเนียมศาลไว้ก่อนก็จะทำให้โจทก์เสียสิทธิในการที่จะได้รับพิจารณาให้ต่อสู้คดีอย่างคนอนาถา ฉะนั้น จึงขอได้โปรดอนุญาตให้ทุเลาการชำระค่าธรรมเนียมศาลไว้ก่อน
หมายเหตุ จำเลยที่ 5 แถลงคัดค้าน (อันดับ 347)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ให้จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 4 โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทไปเป็นของโจทก์ตามข้อตกลงและให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินของโจทก์ออกเสียจากทะเบียนที่ดินราชพัสดุ หากจำเลยบิดพริ้ว หรือเพิกเฉยให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย และหากจำเลยโอนที่ดินคืนแก่โจทก์ไม่ได้ ให้จำเลยใช้ราคาที่ดินจำนวน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ให้จำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 6 ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายจำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยทั้งหกต่างยื่นคำให้การ เฉพาะจำเลยที่ 4 ฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 4 และให้ขับไล่โจทก์ทั้งสองออกจากที่พิพาท และให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา (อันดับ 284,279 แผ่นที่ 2,336)
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา (อันดับ 339)
โจทก์ที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 340)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วยกคำร้อง กำหนดให้โจทก์นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาเสียภายใน 15 วัน โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา และศาลฎีกามีคำสั่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นแล้ว ไม่จำต้องสั่งคำร้องขอทุเลาการชำระค่าฤชาธรรมเนียมของโจทก์อีก
