แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินสองปี ทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้พิพากษาแก้ไขมากและเพิ่มเติมโทษจำเลยแต่อย่างใด ฎีกา ของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ที่แก้ไขใหม่ มีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้พิพากษาแก้ไขโทษของจำเลยให้มากขึ้น เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย คำสั่ง ศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 วรรคแรก,73 วรรคแรก, 74 ที่แก้ไข แล้ว ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษ ไว้มีกำหนด 2 ปี และกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติจำเลย โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน และให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควร ภายในระยะเวลา 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับ ให้กักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ริบไม้ ของกลาง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจำคุก 6 เดือนโดยไม่ปรับ จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก3 เดือน ไม่รอการลงโทษ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 3 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ไม่คุมประพฤติ นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 40) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 41)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ5,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี ฯลฯ ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาแก้เฉพาะโทษเป็นว่า ให้จำคุก 3 เดือน ไม่ปรับไม่รอการลงโทษ แต่ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 3 เดือนเป็นการแก้ไขมากและเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย จึงไม่ต้องห้าม ที่จำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงให้รับ ฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันรับสำเนาฎีกา