แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ต่างฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าเนื่องจากคดีนี้ทุนทรัพย์ 45,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับฎีกา ของจำเลยที่ 1 ที่ 2
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่า การกระทำของโจทก์ไม่ต้องตามกฎหมาย พยานเอกสารของโจทก์รับฟังไม่ได้ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ เป็นให้เพิกถอนนิติกรรมการจดทะเบียนโอนที่ดินตามโฉนดเลขที่ 3750 ตำบลหัวไทร(ทางข้ามน้อย) อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทราระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และการโอนระหว่างจำเลยที่ 2กับจำเลยที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนที่ดินเฉพาะส่วนตามแผนที่วิวาทให้โจทก์ หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติ ให้ถือเอา คำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ต่างฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 173,175)
ทนายจำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 185)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกัน ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จำเลยที่ 1 ที่ 2 ต่างฎีกา คัดค้านดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการรับฟังพยานหลักฐาน รวมทั้งเอกสาร หมาย จ.1 และอ้างว่า ได้โอนและรับโอนที่ดินพิพาท โดยสุจริตตามลำดับ เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ส่วนที่จำเลยที่ 1ฎีกาในข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยอ้างเหตุว่าสัญญาจะซื้อขายเอกสารหมาย จ.1 ไม่สมบูรณ์นั้น จำเลยที่ 1ไม่ได้ยกเหตุนี้ขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น และไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนต้องห้ามมิให้ฎีกาตามมาตรา 249 ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ